สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมคงไม่ทราบว่าท่านที่กำลังอ่านบทความของผมในตอนนี้ ประกอบอาชีพอะไร หรือมีพื้นฐานรายได้เฉลี่ยในแต่ละเดือนเท่าไร รวมทั้งแต่ละท่านมีภาะหนี้สินส่วนบุคคลเป็นสัดส่วนเท่าไรของรายได้ แต่สิ่งสำคัญที่ท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ก็คือ เมื่อถึงวันหนึ่ง ที่ท่านไม่สามารถมีเรี่ยวแรง ทำมาหาเลี้ยงชีพได้แล้วนั้น ท่านจะนำเงินจากไหนมาใช้ เพราะต้องบอกตามตรงว่า การจะอาศัยลูกหลาน ให้เขามาเลี้ยงเราตอนแก่นั้น มันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยากในอีก 20 – 30 ปีข้างหน้า เนื่องจากแค่ให้ลูกหลานเราดูแลตัวมันเองให้รอดจากสิ่งล่อตาล่อใจ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่แยบยล ผ่านแพลตฟอร์มที่สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยปลายนิ้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่มีอายุอยู่ในช่วง 20-35 ปี แล้วอยากมีเงินใช้ตอนแก่ ผมมีวิธีครับ ไม่ยาก…

  สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน  สำหรับวันนี้ ผมขอติดตามสถานการณ์บ้านเมืองของเรา รวมทั้งนำข้อสังเกตที่ได้มาต้มยำทำแกงกับหุ้น ที่พวกเรากำลังหาเอการลงทุนนะครับ โดยในวันนี้ เป็นเรื่องราวของการเปิดเทอม หรือเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ของบรรดานักเรียนรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เป็นประเด็นกันพอสมควรว่า จะเปิดดีไหม เปิดแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรง จะกลับมาอีกรึเปล่า ซึ่งความจริงแล้ว สิ่งที่น่าห่วง ไม่ใช่เด็กโตวัยมัธยมแต่อย่างใด เพราะนักเรียนรุ่นนี้ ล้วนเริ่มรู้จักป้องกันตัวเองทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกับเด็ดอนุบาลจนถึงประถมต้น ที่ค่อนข้างอันตราย สุดท้าย บ้านเมืองนี้ ก็เปิดโรงเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน กันซะเป็นส่วนใหญ่…

หากคุณเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน นอกจากคุณจะต้องศึกษาข้อมูลเชิงลึกของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะของธุรกิจ ที่มีโอกาสไปต่อได้ในอนาคตหรือไม่ หรือแม้กระทั่งผลประกอบการที่ผ่านมา ที่เราสามารถรู้ได้ ผ่านงบการเงิน ว่าบริษัทที่เราสนใจนั้น เหมาะสมที่เราจะเอามาอยู่ในพอร์ตหรือไม่ สิ่งสำคัญอีกประการที่คุณห้ามละเลยเด็ดขาด ก็คือ ผู้บริหารของบริษัท ที่มีอุปนิสัยน่าคบ เพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่า บางครั้งบางที ความคิด ทัศนคติ วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร จะสามารถทำนายอนาคตของบริษัทที่เราสนใจ ว่ามีโอกาสนำพาพอร์ตการลงทุน ของพวกเราชาวนักลงทุน ไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ ซึ่งในวันนี้เอง เราจะมาพูดถึงผู้บริหารที่เราควรคบและผู้บริหารที่เราควรหนีออกไปให้ห่าง ไปติดตามกันเลยครับ ผู้บริหารที่นักลงทุนอยากคบ สำหรับมุมมองที่นักลงทุนมองไปถึงผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม ที่ผมจะเล่าในลำดับต่อไปนั้น บางครั้งบางที…

  สวัสดีครับเพื่อนนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องราวเบา ๆ คิดซะว่าเป็นการผ่อนคลายในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิดระลอก 3 ซึ่งหนักหน่วงยิ่งนักก็แล้วกัน คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า คุณเคยคิดหรือเคยมีประสบการณ์ ของการถือหุ้น ที่ประชาชีไม่รู้จักหรือไม่ ซึ่งผมเชื่อว่า บางคนก็เคยมีหุ้นแบบที่ว่า และหลายคนก็คงไม่เคย โดยเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะโดยปกติในทุกวงการ จะมียอดมนุษย์ที่เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จอยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่าคนที่ไม่ประสบความสำเร็จเสมอ แต่ที่แปลกก็คือ ในบรรดาคนส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จในทุกวงการ จะมีลักษณะคล้าย ๆ กัน 2 อย่างคือ เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น หรือไม่ก็ เขาเคี่ยวเข็ญตัวเองอย่างหนักประกอบกับพรสวรรค์ที่มีอยู่บ้าง จนประสบความสำเร็จ ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการหุ้น…

  ความเดิมตอนที่แล้ว  ผมได้พูดถึงหุ้น 4 กุมาร ไปแล้ว 2 ตัว ซึ่งจะว่าไปก็เป็นหุ้นที่ใช้ได้ โดยยังติดค้างพี่น้องนักลงทุนอีก 2 ตัว ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไฮไลต์ของบทความชุดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีขนานแท้ ไม่มีย้อมแมว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามกันต่อครับ 1หุ้นTECH 1หุ้นอุตสาหกรรม สำหรับหุ้นที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ พวกเขาทำธุรกิจคนละประเภท คนละอุตสาหกรรม แต่ที่ผ่านมา มีการทำผลงานการดำเนินธุรกิจได้ค่อนข้างดี...อ้อ ก่อนอื่น ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า การเสนอหุ้นรายตัวของผมในครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาชี้นำ หรือชี้ชวนให้ใครลงทุนตาม เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลเพียงบางส่วนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนเท่านั้น…

  ความเดิมตอนที่แล้ว ผมได้บอกทุกท่านไปว่า ผมไม่พบหุ้นที่สามารถทำกำไรได้โตต่อเนื่องจนถึงปี 2563 ซึ่งเป็นปีแห่งวิกฤตโรคระบาด ที่ทำลายเศรษฐกิจของผู้คนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย แต่ทว่า แม้ไม่มีหุ้นสุดยอดของการIPO ในตลาดMAI ในปี 2559 แต่ก็พอมีที่ใช้ได้ สามารถทำกำไรได้ใกล้เคียงกับปีก่อนเกิดโควิด ซึ่งในวันนี้ ผมจะพาทุกท่านไหรู้จักกันครับ ว่ามีหุ้นอะไรบ้าง ปัจจุบันพวกเขาเป็นอย่างไร หุ้น 4 กุมาร จากการIPOปี2559 ต้องขอออกตัวอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่มีเจตนาที่จะชี้แนะ ชี้ชวนให้ใครมาลงทุนตามที่ผมบอก ผมเพียงแค่นำเสนอข้อมูลบางประการเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนหุ้นของท่านเท่านั้น เอาหละ!!!เมื่อพร้อมแล้วไปติตตามกันเลย 1.ITEL หรือ…

สวัสดีพี่น้องนักลงทุนทุกท่านครับ หากผมถามว่าคุณมีวิธีการคัดเลือกหุ้นอย่างไร คำตอบก็คงจะกว้างมาก เพราะร้อยคนก็ร้อยความคิด แต่หากถามคนที่ไม่ชอบลงทุนในหุ้นIPO เนื่องจากไม่ชอบความร้อนแรงที่ในอนาคตไม่รู้การดำเนินธุรกิจจะเป็นแบบไหน ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นด้วยจินตนาการ ก็คงจะได้คำตอบคล้าย ๆ กันว่า เราก็แค่คัดเลือกหุ้นที่มีผลดำเนินการในอดีตที่แจ่มว้าว คำถามต่อมาก็คือว่า การคัดเลือกหุ้นที่ผลงานดี ๆ ที่ว่า จะต้องย้อนดูข้อมูลไปสักกี่ปี บางคนก็ตอบว่า 10 ปี บ้าง 5 ปีบ้าง ซึ่งในวันนี้ ผมขออนุญาตย้อนไปสัก 5 ปี โดยผมคิดว่าถึงแม้จะไม่ชัวร์เท่า 10 ปี แต่อย่างน้อย…

  ยังคงเป็นปัญหาถกเถียงกันมาช้านานว่าหุ้นแบบไหนดีที่สุด ระหว่าง หุ้นขนาดเล็ก หรือ หุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งคำตอบก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากหุ้นทั้งสองประเภทก็ต่างมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละท่านว่า มีเป้าหมายของการลงทนเป็นแบบไหน ซึ่งถ้าให้พูดกันตรง ๆ สำหรับนักลงทุนรายเล็ก ๆ ที่มีเงินลงทุนอยู่ในช่วง 6 – 7 หลัก หากเลือกลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่แล้วอยากให้มีการเปลี่ยนชีวิตจากการลงทุน จากคนธรรมดาเป็นคนร่ำรวย มีอิสรภาพทางการเงิน ก็คงไม่ง่ายนัก ที่จะทำได้สำเร็จ อยากเปลี่ยนชีวิตควรเลือกหุ้นขนาดเล็ก ทำไมผมถึงเชียร์ให้นักลงทุนที่มีเงินหลักแสนถึงหลักล้านแบบเลขตัวเดียวเลือกลงทุนใน หุ้นขนาดเล็ก ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ ก็เพราะว่าการจะเปลี่ยนชีวิตจากคนธรรมดาเป็นคนร่ำรวยจากหุ้นขนาดใหญ่ที่แทบจะอิ่มตัว เดินต้วมเตี้ยม…

  ปัญหาของมือใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทลงทุนปล่อยเช่า เพื่อหวังที่จะได้รับเงินเข้ากระเป๋าแบบเรื่อย ๆ แต่ยาวนานนั้น ก็คงหนีไม่พ้นการหาผู้เช่า ซึ่งความจริงแล้วปัญหานี้จะลดความเสี่ยงได้มาก หากเรามีการคัดกรองทำเลที่ตั้งของคอนโด ตั้งแต่ขั้นตอนแรกๆ แล้ว เพราะถ้าให้พูดแบบตรงไปตรงมาการที่คิดจะลงทุนในคอนโดปล่อยเช่าสักห้อง ต้องมีการสำรวจพื้นที่ ที่คอนโดเป้าหมายของเราตั้งอยู่ รวมทั้งสำรวจบริเวณรอบ ๆ ว่า มีคอนโดที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคอนโดเป้าหมายเราตั้งอยู่มากมายแค่ไหน อีกทั้งยังต้องสำรวจเรื่องผู้คนแถบนั้น ว่าประกอบอาชีพอะไรบ้าง รวมทั้งต้องทราบให้ได้ว่า ทำไมเขาถึงมาอยู่หรือมาเช่าคอนโดนี้ ดีไม่ดีเราอาจได้คอนโดที่ดีมากกว่าคอนโดเป้าหมายเรา ที่เราค้นพบในอินเตอร์เน็ตเสียอีก แต่จนแล้วจนรอด สำรวจแล้ว สำรวจอีก คิดว่าดี เลยตัดสินใจซื้อ แต่เหตุใด…

  สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ที่ค่อนข้างมีความเกี่ยวข้องกับการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ เพราะนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่ส่งผลกระทบในวงกว้างแบบที่เรียกว่าแทบทุกพื้นที่บนโลกนี้ ไม่เว้นแม้กระทั้งประเทศไทยของเรา ซึ่งสิ่งนี้เองก็เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่แสดงให้เห็นว่าคนรายได้น้อยถึงปานกลางของไทย ซึ่งแต่เดิมนั้น ก็ยังพอที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองได้ แต่ปัจจุบันนั้น กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะเรื่องของหนี้สินส่วนบุคคล ที่จะออกไปทางหนี่บริโภคซะส่วนใหญ่ ส่งผลให้การคิดจะกู้เงินจากธนาครเพื่อซื้อบ้าน เป็นเรื่องที่ยากขึ้นมาก และปัญหานี้เองอาจจะบานปลายจนถึงขั้นที่คนไทยกำลังจะมีบ้านเป็นของตัวเองได้ยากขึ้น คนรายได้น้อย ควรเอายังไงดี สำหรับความน่าสนใจของเรื่องนี้นั้น ไม่ใช่คนที่มีรายได้น้อยจะเดือดร้อนที่อาจไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเท่านั้น เจ้าของโครงการเอง ที่พัฒนาโครงการในเรทราคาที่ไม่สูงมากนัก ที่คาดหวังจากกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ไม่สูงมากจนถึงปานกลางก็พลอยจะได้รับผลกระทบไปด้วย อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเมื่อลองไล่เรียงกระบวนการซื้อที่อยู่อาศัยตามขั้นตอนแล้ว เมื่อผู้มีรายได้น้อยไม่มีเงินพอที่จะซื้อบ้านรวมทั้งเป้นคนที่เครดิตไม่ดี จึงเดินเข้าหาธนาคารเพื่อขอกู้เงิน…