สวัสดีครับ ท่านนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องราว เกี่ยวกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเพราะถือว่าเป็นแนวความคิดที่สำคัญ ที่สามารถชี้ชะตาผลตอบแทนในระยะกลางหรือระยะยาวได้เลย ว่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่ เนื่องจากตลาดหุ้นนั้น เป็นอะไรที่ชี้นำเศรษฐกิจ กล่าวคือ หากนักลงทุนคิดว่า ในระยะ 6 เดือน – 2 ปี ข้างหน้า
เศรษฐกิจจะดีหรือธุรกิจของหุ้นที่เกี่ยวข้องจะดี หุ้นก็จะขึ้นนำตลาด ตรงกันข้าม หากนักลงทุนคิดว่า มันมีโอกาสจะแย่ในระยะ 6 เดือน – 2 ปี ข้างหน้า หุ้นก็จะร่วง ดังนั้น หากใครก็ตามที่คิดจะลงทุนตามตัวเลขเศรษฐกิจเป๊ะ ๆ ท่านอาจจะเป็นคนหนึ่งที่พลาดโอกาสการลงทุนดี ๆ ไป รวมทั้งนอกจากจะพลาดโอกาสการลงทุนที่ดีแล้ว ตัวเลขที่สวยหรูเหล่านี้ จะพาท่านไปเที่ยวภูเขาแบบหาทางลงยากมาก อย่างที่หลายคนเรียกว่าติดดอย

แล้วควรทำอย่างไร ถึงจะไม่เสียโอกาสการลงทุน
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาไม่ให้เสียโอกาสการลงทุน ความจริงไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของนักลงทุนแต่ละท่านเลย แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้จักตัวเองและหุ้นที่เราสนใจก่อนว่า มีลักษณะอย่างไร ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังเป็นข้อ ๆ แบบนี้ครับ
ถ้าท่านเป็นนักลงทุนแนวเก็งกำไรที่ชอบหุ้นวัฏจักร ท่านก็จะต้องรู้ให้ได้ว่า หุ้นที่ท่านกำลังสนใจอยู่นั้น อยู่ในอุตสาหกรรมอะไร และมีวัฏจักรอย่างไร เป็นขาขึ้นหรือขาลง ซึ่งการที่ท่านลงทุนหุ้นวัฏจักรในช่วงที่เป็นขาขึ้น นั่นเป็นอะไรที่เสี่ยงเอามาก ๆ

เนื่องจากบางกลุ่มอุตสาหกรรม จะวนรอบกลับมาเป็นขาลงให้เราได้ซื้ออีกครั้ง ก็กินเวลาเป็น 10 ปีเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น หุ้นเกี่ยวกับยางพารา ซึ่งหลายปีก่อนหน้านี้ ราคาไม่ไปไหนเลย แต่พอมาปีนี้ ก็พุ่งขึ้น จนนักลงทุนที่จับจังหวะถูก ก็พากันยิ้มแก้มปริ จากอุปสงค์ของตลาดยางพาราที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
ประการต่อมา ถ้าท่านเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน และชอบเลือกลงทุนหุ้นรายตัว แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะมีผลกระทบบ้าง แต่ก็จะไม่มาก หากหุ้นที่ท่านชอบเป็นบริษัทที่ดี มีกำแพงป้องกันการแข่งขันของคู่แข่ง ที่แข็งโป๊ก รวมทั้งเป็นธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของมนุษย์ หุ้นแบบนี้ ท่านก็แค่รอให้เกิดวิกฤติจนนักลงทุนส่วนใหญ่เทขายให้ได้ แล้วก็ซื้อท่ามกลางช่วงเวลาที่คนอื่นกลัว (เราเองก็ยังกลัว เพราะมันน่ากลัวจริง ๆ)

สุดท้ายนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล และตัดสินใจด้วยตัวเองในการลงทุนเสมอ…สวัสดีครับ
เครดิตภาพ posttoday.com ,thunkhaotoday.comและsites.google.com
#การลงทุน #เทรนการลงทุน #เทคนิคการเล่นหุ้น #หุ้น