ข่าวร้ายมาแล้ว ใครวางแผนไว้แล้ว ก็จัดไป

    สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ขณะที่ผมเขียนบทความบทนี้ คือวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่SET ปิดตลาดด้วยสีแดงไปอีกวัน ซึ่งผู้ที่ขายสุทธินั้น ก็คือ นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ ที่ขายสุทธิไปคนละ 3,000 ล้านบาทโดยประมาณ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะอะไรกัน? คำถามนี้คงเป็นคำถามที่ก้องอยู่ในใจของนักลงทุนรายย่อยหลายต่อหลายคน

ซึ่งในบรรดาเพื่อน ๆ นักลงทุน ก็คงมีอยู่ไม่น้อย ที่พอจะทราบว่า สาเหตุของเรื่องนี้ เกิดจากอะไร โดยคำตอบที่ได้ก็คือ ตลาดหุ้น กำลังเผชิญกับข่าวร้ายนั่นเอง คำถามต่อมา เราสามารถรับมือกับข่าวร้ายได้ดีแค่ไหน รวมทั้งมีวิธีการจัดการกับข่าวร้ายต่าง ๆ อย่างไร วันนี้ ผมจะช่วยเตือนสติทุกท่านเองครับ

ข่าวร้ายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

ทำไมผมถึงกล้าพูดว่าข่าวร้าย ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ก็เพราะว่า คำว่าข่าวร้าย มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดสำหรับการลงทุนในหุ้น ควบคู่กับข่าวดี ดังนั้น หากข่าวร้ายในช่วงนี้คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อที่อาจรุนแรงและบานปลาย รวมทั้งสถานการณ์การระบาดของโควิด19ในไทย

ที่นอกจากจะมีคนติดเชื้อเกือบ ๆ 2,000 คนต่อวันแล้ว อัตราการตายก็ 20-30 คน เป็นอะไรที่น่ากลัวสุด ๆ พอจินตนาการต่อว่า เมื่อโควิดยังแก้ไม่ได้ ย่อมไม่มีใครกล้าเดินทางหรือใช้ชีวิตแบบปกติ ก็ยิ่งหมดความเชื่อมั่นในการลงทุนเข้าไปอีก พอเป็นแบบนี้ในใจก็ว้าวุ่น แวบหนึ่งของความคิด “ขายดีกว่า จะได้จบ ๆ ไป”

สิ่งที่ผมสาธยายข้างต้น ผมกำลังพูดถึงอารมณ์ของนักลงทุนครับ เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าข่าวร้าย ก็คืออารมณ์ของมนุษย์นี่แหละ ผมจึงมีข้อคิดแบบนี้ครับ หากคุณเป็นนักลงทุนแนวเก็งกำไร หุ้นร่วงตามเปอร์เซ็นที่วางไว้ คุณก็คัทลอส ตามแผน ไม่ต้องคิดเยอะ แต่ถ้าคุณเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน คุณย่อมทราบดีว่าหุ้นที่คุณมีอยู่ในพอร์ตนั้น

มีพื้นฐานอย่างไร เช่น เป็นหุ้นที่มีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร หรือแม้กระทั่งธุรกิจที่ทำ มีที่มาของรายได้อย่างไร รวมทั้งอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ ดังนั้น หากคุณวิเคราะห์แล้วว่า ข่าวร้ายที่ถาโถมมาเป็นผลกระทบระยะสั้น ไม่ได้กระทบต่อการเติบโตในระยะยาว นี่คือโอกาสในการลงทุนเพิ่มของคุณ ตรงกันข้าม หากข่าวร้ายที่ว่าเป็นผลกระทบที่รุนแรงต่อหุ้นที่คุณถือ ชนิดที่เรียกว่า ไม่สามารถกลับมายืนที่เดิม หรือเติบโต คุณก็ต้องตัดใจขาย เพื่อรักษาเงินต้นไว้

สุดท้าย ข่าวร้าย ไม่ใช่ประเด็น เพราะหายนะมักเกิดจากอารมณ์…สวัสดีครับ

เครดิตภาพ money.kapook.com ,thairath.co.thและwinnews.tv

#การลงทุน #เทรนการลงทุน #เทคนิคการเล่นหุ้น #ข่าวร้ายเรื่องหุ้น

Table of Contents