การลงทุนแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
เราต้องรู้ก่อนว่าเป้าหมายการลงทุนของเราเป็นการลงทุน ระยะไหน
จึงจะรู้ว่าควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน และลงทุนอย่างไรดี
เพราะการลงทุนแต่ละประเภทสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะ เวลาต่างกัน เช่น
การลงทุนตราสารหนี้และตราสารทุน สามารถให้ผลตอบแทน ที่ดีในระยะสั้นได้
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
คำถามสำคัญที่ต้องถามตัวเองคือ เรารีบใช้เงินแค่ไหน?
เรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน
ความเสี่ยงที่เรารับได้ขึ้นอยู่กับหลายตัวแปร เช่น อายุ ความแน่นอนของรายได้
ความรู้ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนนิสัยในการลงทุน เราสามารถประเมินความเสี่ยงที่เรารับได้คร่าวๆ จากระดับความสำคัญและระยะเวลาของแต่ละเป้าหมาย โดยความเสี่ยงที่เราวัดได้นี้เราจะนำไปเลือกกองทุน หรือระดับ ผลตอบแทนที่คาดหวัง ตามนี้
– เป้าหมาย สำคัญ กลางๆ สำคัญน้อย
– ระยะเวลา นาน กลาง สั้น
– ความเสี่ยง น้อย กลาง มาก
เป้าหมายซื้อรถในอนาคต
– เป้าหมาย สำคัญ กลาง สำคัญน้อย
– ระยะเวลา นาน กลาง สั้น
– ความเสี่ยง น้อย กลาง มาก
ระดับความเสี่ยงที่รับได้สำหรับแผนนี้คือ เสี่ยงน้อง ถึงปานกลาง
เป้าหมายเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณในอนาคต
– เป้าหมาย สำคัญ กลางๆ สำคัญน้อย
– ระยะเวลา นาน กลาง สั้น
– ความเสี่ยง น้อย กลาง มาก
ระดับความเสี่ยงที่รับได้สำหรับแผนนี้คือ เสี่ยงได้หลากหลาน
เสี่ยงน้อยหรือมากก็ได้แล้วแต่ในอนาคตจะเลือก
แบบประเมินความเสี่ยง รับความเสี่ยงได้แค่ไหน
เมื่อเราจะไปเปิดบัญชีเพื่อซื้อกองทุน บลจ. บล. หรือธนาคารจะให้เราทำแบบประเมินความเสี่ยง เพื่อให้เรารู้ตัวว่า รับความเสี่ยงได้แค่ไหน โดยหน้าตาของแบบประเมินความเสี่ยงจะแตกต่างกันบ้าง เล็กๆ น้อยๆ แต่หลักๆ แล้วก็จะสํารวจในเรื่องต่างๆ ดังนี้
– อายุ ถ้าอายุน้อยจะรับความเสียงได้มากกว่าคนวัยใกล้เกษียณ
– จำนวนเงินลงทุนได้ ซึ่งบลงทุนได้เท่าไร
– มีความรู้หรือประสบการณ์การลงทุนมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีความรู้เรื่องการลงทุนพอสมควร ก็สามารถลงสนามลงทุนในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้นได้
– ทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุน ชอบลงทุนแบบปลอดภัย หรือต้องการผลกำไรมากๆ
#การลงทุน #กองทุนรวม #ฝากเงินขั้นต่ำ50บาท