3 เทคนิค ผ่อนคอนโด บ้าน ให้หมดแบบติดจรวด

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า บ้านหรือคอนโดนั้นเป็น ปัจจัยที่ทุกคนต้องการ เพื่ออนาคต เพื่อเกรงกำไร เพื่ออยู่อาศัย คนที่กำลัง ผ่อนบ้าน หรือ คอนโด นั้นต่างก็อยากจะผ่อนให้หมดเร็วๆ เรามีเทคนิคมาแนะนำให้ 3 วิธี

  1. โปะเพิ่มทุกเดือน
    ไม่ว่าการซื้อบ้านหรือคอนโด เมื่อซื้อแล้ว ทุกท่านก็คงอยากผ่อนให้หมดเร็วๆ ถ้าทุกท่านตั้งเป้าหมาย โปะเพิ่มอีกเท่าตัวได้ ถ้าทำได้นะครับ ให้เพิ่มไปอีก 1 เท่าตัวเสมอ จะทำให้ระยะเวลาการผ่อนลดลงไปหลายปีแน่นอน ดอกเบี้ยก็ไม่บานปลายอีกด้วย
    ดังนั้น อย่างแรกที่เราควรพิจารณาก่อนซื้อ คอนโด หรือบ้าน นั่นก็คือ การเลือกให้เหมาะสมกับสถานะการเงินของเรา ไม่ควรเลือกคอนโด หรือบ้าน ที่ราคาสูงกว่าสภาพการเงินของเรา ถ้าใครทำได้ก็รับรองได้บ้านเป็นของคุณเร็วขึ้นแน่นอน แต่ถ้าใครพอไหวแต่ไม่ถึงขั้นโปะอีก 1 เท่าตัว ก็รองโปะเพิ่ม 10% – 20% ก็จะช่วยลดเงินต้น เงินต้นน้อยลงก็ลดดอกเบี้ยลงได้ บ้าน หรือ คอนโด ก็จะเป็นของเราเร็วขึ้น ถ้าใครได้รับโบนัทปลายปี ควรเอามาโปะเพิ่มด้วยนะครับ เงินก้อนนี้จะช่วยร่นระยะการผ่อนได้
  2. ควรโปะให้หมด ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังไม่สูง
    จากเทคนิคแรก หลายคนเริ่มบอกว่าทำได้แต่คาดว่าจะทำในระยาวโดยการโปะเพิ่ม 1 เท่าไม่ไหว ลองกัดฟันสู้ในช่วงที่ดอกเบี้ยจะไม่สูงมาก ปกติช่วง 1-3 ปี แรก อัตราดอกเบี้ยมักจะต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้าแบบเราๆ ให้ไปกู้ เป็นไปตามโปรของแต่ละธนาคาร ตกอยู่ที่ราวๆ 2-4% เมื่อผ่านช่วง 1-3 ปีไปแล้ว ดอกเบี่ย จะพุ้งทยานตาม MRR ดอกเบี้ยอาจเพิ่มไปถึง 5-8% เลยก็ได้ ดังนั้นถ้าเรารีบโปะในช่วงที่ดอกเบี้ยยังต่ำๆ ก็จะลดเงินต้นไปได้เยอะ ก็จะจ่ายค่าดอกเบี้ยน้อยลงตามเงินต้น อย่ารอให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นแล้วมาโปะ เพราะมันจะเป็นดอกเบียมากกว่าจะไปลดเงินต้น เอาเป็นว่าช่วงที่ดอกเบี้ยยังต่ำอยู่นั้นให้รีบโปะเท่าที่ไหวกันนะครับ
  3. รีไฟแนนซ์ ขอปรับอัตราดอกเบียผ่อนคอนโด บ้าน กับที่เดิมหรือหาที่ใหม่
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจการ รีไฟแนนซ์ ง่ายๆ คือ การที่เราไปกู้เงินของอีกธนาคารมาจ่ายเงินให้ธนาคารที่เรากู้เงินอยู่ เพราะส่วนใหญ่เมื่อผ่าน 3 ปี ตามโปร ของธนาคารแล้ว ในปีถัดไป ดอกเบี้ยจะทยานตาม MRR ถ้าเรา รีไฟแนนซ์ได้ ก็จะได้โปรใหม่ของธนาคารใหม่ แต่อย่าลืมดูสัญญาที่ทำไว้ด้วยนะจ๊ะ ว่ารีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่ ถ้าเราทำก่อนสัญญาจะจบลง อาจโดนค่าปรับ ที่ไม่คุ้มค่าในการ รีไฟแนนซ์เลย
    หากเป็นไปตามเงื่อนไข สามารถรีไฟแนนซ์ได้ ก็ทำเหมือนตอนที่เราซื้อครั้งแรก ต้องดูเรื่องอัตราดอกเบี้ย ธนาคารไหนให้ต่ำกว่าก็ไปเอาโปรของธนาคารนั้น แต่อย่าลืมดูเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าจดจำนอง เพิ่มเติมด้วย บวก ลบ ดูให้ดีว่าคุ้มค่ากว่าจริงไหม บางคน ผ่อนกับธนาคารเดิม อาจมีดอกเบี้ยสูงขึ้นก็จริง แต่พอ หักลบ ค่าธรรมเนียม ค่าจำนอง แล้วธนาคารเดิมอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าก็ได้
    และเรายังพอมีวิธี ไปเจรจากับธนาคารเดิมอยู่หากเรามีประวัติการผ่อนที่ดีมาตลอด 3 ปี ก็เจรจาเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลงได้ โดยที่เราไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ และอาจจะได้ดอกเบี้ยที่เหมาะสมกว่า การรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่นอีกด้วย
    สรุปเทคนิคข้อนี้คือ การรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ หากคำนวณแล้วถูกกว่าก็ย้าย หรือธนาคารเดิมหากเรามีประวัติที่ดี ก็รองเข้าไปเจรจาดู อาจได้ผลลัพที่ดีกว่าการรีไฟแนนซ์ ก็ได้

Table of Contents