ที่ไหน ที่หุ้นธนาคารยังโต

  สวัสดีครับ ท่านนักลงทุนหุ้นทุกท่าน  ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มธนาคาร ถือว่าเป็นหุ้นตัวหลักของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเลยทีเดียว เนื่องจาก หากไม่นับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่ธนาคารหลาย ๆ ธนาคาร ได้ล้มหายตายจากไป เนื่องจากแบกรับภาระหนี้สิน ที่เกิดจากการกู้ยืมเงินต่างประเทศ มาปล่อยสินเชื่อในไทย จนกระทั่งมีการลอยตัวค่าเงินบาท ซึ่งทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นทันที 1 เท่าตัว

อย่างที่หลายคนทราบกันดีนั้น หุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่ ๆ ที่หลงเหลืออยู่ แม้ไม่ได้ทำผลตอบแทนได้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น แต่ก็ต้องยอมรับว่า พวกเขาคือกลุ่มอุตสาหกรรมที่พยุงตลาด รักษาเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นไทย แต่ด้วยรายได้หลักของธนาคาร คือ ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อ ให้ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางหรือแม้กระทั่งขนาดย่อม

ดังนั้น หากประเทศใด กำลังเติบโต ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยด้านประชากร และปัจจัยอื่น ๆ เป็นตัวสนับสนุน ก็ย่อมส่งผลต่อกำไรให้กับธนาคารโดยตรง

หุ้นธนาคารอินโดนีเซีย แกร่งมาก

สำหรับประเทศอินโดนีเซียนั้น ถือว่าเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นลำดับที่ 4 ของโลก รองจาก จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ดังนั้น หากแค่ประเมินจากปัจจัยเดียว นั่นก็คือ ปัจจัยด้านประชากร อินโดนีเซีย จัดเป็นประเทศที่มีตลาดใหญ่มากเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก รวมทั้งยังมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งแรงงานของโลก

ซึ่งจะเป็นสิ่งจูงใจชั้นดี ให้บริษัทใหญ่น้อยทั่วโลก หันมาลงทุน ณ ประเทศแห่งนี้ ซึ่งเมื่อมาแนวนี้ จึงเท่ากับว่าหุ้นธนาคารเป็นกลุ่มที่ร้อนแรงแน่นอน ซึ่งหากไล่ดูหุ้นที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของอินโดนีเซีย 20 อันดับแรก มีหุ้นธนาคาร เข้ามาติดอันดับถึง 7 หุ้นด้วยกัน

จากความร้อนแรงของหุ้นกลุ่มธนาคารในอินโดนีเซีย มีหรือที่หุ้นธนาคารบ้านเราจะไม่มีความเคลื่อนไหว เพราะลำพังการหากินในบ้านเรา ก็มีแต่สาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ ซึ่งแม้จะมีความพยายามแตกแขนงไปเป็นธุรกิจอื่น แต่ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ตรงกันข้าม การทำให้ธุรกิจไปรอด และสามารถทำกำไรได้ในระดับหนึ่งก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ดังนั้น หุ้นธนาคารที่เป็นเสือปืนไว อย่างธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ก็ได้เข้าไปลงทุนกับธนาคารสัญชาติอินโดนีเซีย ที่ชื่อว่า เพอมาตา ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 7 ของเพื่อนธนาคารด้วยกันในอินโดนีเซีย

จากการขยับตัวของหุ้นธนาคารไทยในคราวนี้ หลายคนคงสังเกตเห็นแล้วว่า การลงทุนในไทยในหลายอุตสาหกรรม หลังจากนี้ คงไม่เติบโตอะไรมาก ดังนั้น การที่เราแบ่งเงินไปลงทุนต่างประเทศบ้าง ก็คงเป็นการเพิ่มโอกาสและกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของเราได้เป็นอย่างดี…สวัสดีครับ

เครดิตภาพ marshallstrategy.com ,Bloomberg.comtและprachachat.net

Table of Contents