สวัสดีครับท่านนักลงทุนหุ้นที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผมยังมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับตลาดหุ้น ที่ไม่ใช่แค่ในตลาดหุ้นบ้านเราเท่านั้น ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมายอะไร เพราะว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ได้กระจายไปแทบทุกภูมิภาคของโลกใบนี้ และหากเราไม่ไปมองอะไรไกลตัวนัก การแพร่ระบาดของประเทศในทวีปเอเชียในหลายประเทศ
ก็ยังหนักเอาการอยู่ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นที่เตรียมจะมีมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติอย่างกีฬาโอลิมปิกนั้น ก็ได้ทำการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วทั้งสิ้น 1 เดือนเต็ม ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ หลายคนก็คงเกิดคำถามว่า เมื่อสถานการณ์บ้านเขา ก็ไม่ได้แตกต่างจากสถานการณ์บ้านเรา แล้วตลาดหุ้นบ้านเขา จะติดลบเหมือนบ้านเราบ้างรึเปล่า วันนี้ ผมจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังครับ

ตลาดหุ้นเอเชียติดลบระนาว
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นเอเชีย ที่ผมจะมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ผมคงไม่สามารถเล่าได้ทุกตลาดนะครับ เพราะว่ามันมากเกินไป คงขอเล่าเพียงตลาดหุ้นหลัก ๆ ในเอเชีย ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นฮ่องกง
เริ่มกันที่ตลาดหุ้นจีน กับดัชนี SSE COMPOSITE ก็ปิดตัวลดลงเล็กน้อยประมาณ 13.27 จุด หรือ -0.37% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นกับดัชนี Nikkei 225 ก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกัน โดยร่วงลง 378.61 จุด หรือประมาณ -1.35% สุดท้ายคือ ดัชนี HIS ของฮ่องกง ที่ลดลง 21.56 จุด หรือ 0.07% เรียกได้ว่าหากเทียบตามอัตราส่วนของดัชนีแล้ว ต่างก็ปรับตัวกันคนละเล็กคนละน้อย

ความเห็นส่วนตัวนะครับ สำหรับมุมมองของตลาดในระยะสั้น ที่ตลาดมักอ่อนไหวกับสถานการณ์ของยอดผู้ติดเชื้อ ทำให้โอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะพลิกกลับมาบวกเป็น 100 จุด และพาตัวเองขึ้นไปสูดากาศชั้นบนที่ 1,700 จุด คงเป็นไปได้ยากยิ่ง ตรงกันข้าม ตลาดจะSideway อยู่ในช่วง 1,500 – 1,600 กว่าจุด ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีข่าวดี หรือข่าวร้ายเพิ่มเติม จากความไม่แน่นอนของปัญหาเศรษฐกิจโลกที่สั่งสมมานานตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด ซึ่งในระยะสั้น 6 ดือน – 1 ปี มีโอกาสสูงมาก ที่ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย มีโอกาสPanic รุนแรง และเราอาจมีโอกาสเห็น SET ร่วงลงต่ำกว่า 1,000 จุดอีกครั้ง

สำหรับสิ่งที่พึงระวังนับแต่นี้ ก็คือ ควรระมัดระวังเรื่องการลงทุนให้มาก การเข้าซื้อ ควรมีสติ ซึ่งกากันเงินสดที่พร้อมซื้อหุ้นดีในราคาถูก เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นลำดับแรก ส่วนการทยอยการลงทุนในหุ้นที่ชอบ ควรเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ทำ ไม่ควรผลีผลาม…ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จครับ
เครดิตภาพ techfeedthai.com ,matichon.co.thและlivetradingnews.com
#การลงทุน #เทรนการลงทุน #เทคนิคการเล่นหุ้น