สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบอะไรที่สมเหตุสมผล จับต้องได้ และเข้าใจได้ไม่ยาก อย่างการลงทุนหุ้นแนวปัจจัยพื้นฐาน ที่หุ้นหรือบริษัทนั้น ๆ มีการเจริญเติบโตจากรายได้ ซึ่งเกิดจากคุณภาพของหุ้นเอง ไม่ได้เกิดจากการปลุกปั่นจากคนกลุ่มหนึ่งหรือใครคนใดคนหนึ่ง
แล้วทำให้หุ้นขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล สุดท้ายเมื่อหุ้นปั่นเหล่านั้น ขึ้นมาสูง ๆ ก็มีคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แห่มาซื้อตาม และหายนะจากการลงทุนก็เกิดขึ้นกับผู้ที่แห่ตามมา จนสร้างความเจ็บปวด ที่ยากจะลืมเลือน…เอาหละครับ
เรามาพูดเรื่องของเราดีกว่า ว่าหากหุ้นที่เราคิดว่าใช่ ที่ผ่านมา 2-3 ปี รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และต่อจากนี้อีก 7 ปี ผู้บริหารบอกว่า จะโตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราคิดว่าเรื่องจริง หรือเขาโม้?

น้อยมากหรือเป็นไปไม่ได้ ที่หุ้นจะเติบโตแรงต่อเนื่อง 10 ปี
ต้องขออนุญาตพูดตามตรง ตามสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบันเลยนะครับ ถ้าหากมีหุ้นบริษัทไหน ที่ไม่ได้ทำธุรกิจแบบ New S-Curve แบบเทรนด์ของโลก ที่สามารถสร้างรายได้แบบไร้พรหมแดนจริง ๆ ผมต้องขอตอบว่า ผู้บริหารที่พูดแบบนี้ มีโอกาสโม้เกิน 80% เพราะอะไรนะหรือ วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังครับ

ผมขอยกตัวอย่างแบบนี้ครับ สมมติว่า เรากำลังซื้อหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม ที่มีขนาด 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหุ้นที่เราสนใจ สมมติว่าชื่อหุ้น A มีรายได้ 2,000 ล้านบาท แต่การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้แค่ 5% เท่านั้น ดังนั้น ถ้าหุ้น A ทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 5 ปี
รายได้ของหุ้นA จะมากถึง 7,425 ล้านบาท แต่รายได้ของอุตสาหกรรมนี้ทั้งกลุ่มจะมีแค่ 12,762 ล้านเท่านั้น
ซึ่งคิดเป็น % ของมาร์เก็ตแชร์ถึง 58% เลยทีเดียว ซึ่งนี่ขนาดคิดแค่ 5 ปี ยังกินมาร์เก็ตแชร์ เกือบ 60% …ถ้าถามผมว่า โตต่อเนื่อง 30% 5 ปี สามารถเป็นไปได้ไหม คำตอบก็คงเป็นไปได้กว่า
ต่อเนื่อง 10 ปีแน่นอน ซึ่งบริษัทที่ว่าจะต้องแข็งแกร่ง และมีสายป่านยาว มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมในการบริหารงาน ยกตัวอย่างหุ้นเทพ อย่างCPALL ที่ครองตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ หากท่านเริ่มต้นลงทุนหุ้นนี้ เมื่อปี 54 รายได้เติบโตสูง ๆ ที่เกิน 20% จะมีแค่ 3 ปีแรกที่ลงทุนเท่านั้น โดยปีที่ 4-5 จะเติบโตในระดับ 10% เท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าท่านจะลงทุนตั้งแต่แรก ๆ เหมือนเซียนหุ้นชื่อดัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านเลือกหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็อย่าลืมดูเรื่องการจัดการต้นทุนด้วยนะครับ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวชี้วัดความยั่งยืนของหุ้นที่ท่านถือได้เป็นอย่างดี
เครดิตภาพ dreamstime.com ,board.postjung.comและny-consult.com
#การลงทุน #เทรนการลงทุน #เทคนิคการเล่นหุ้น #หุ้น