สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน สำหรับบทความนี้ เป็นเรื่องราวของสไตล์การลงทุน ที่ผมเคยมีโอกาสเขียนให้อ่าน หรือเล่าให้ฟังผ่านตัวหนังสือมาหลายบทความแล้ว แต่เนื่องจากยังมีเรื่องราวเหล่านี้ จากสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่มีการถกเถียงกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ผมก็เอลอดใจไม่ได้ที่จะมาเขียนเรื่องราวเหล่านี้ ให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน เพราะอย่างน้อย ๆ
มันก็จะทำให้สังคมมีความสงบสุขขึ้นมาบ้าง หากผู้ที่เคยถกเถียงกับเพื่อนนักลงทุนตามสื่อต่าง ๆ ได้มีโอกาสมาอ่านบทความนี้ ซึ่งผมมีความตั้งใจที่จะสื่อสารให้นักลงทุนเข้าใจของสัจธรรมที่มีอยู่จริงในโลกใบนี้ ผ่านเรื่องราวการลงทุนในหุ้น เพราะผมมีความเชื่อว่า หากวิธีการของเราแม้จะแตกต่างจากคนอื่น แต่ถ้าไม่มีใครเดือดร้อน ก็ย่อมไม่มีใครผิด

ไม่มีใครผิด ถ้าคิดดีแล้ว และผลลัพธ์ออกมาดี
ผมเชื่อเหลือเกินว่า ไม่ใช่แค่เรื่องลงทุนในหุ้นเท่านั้นนะครับ ที่มีสไตล์แตกต่างกัน เพราะผมคิดว่า สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเรื่องของชีวิตได้เลย ตั้งแต่การเลือกทำงานในสิ่งที่ชอบ ซึ่งลักษณะงานอาจจะขัดใจคนรอบข้างหรือคนรอบข้างไม่เข้าใจ แต่งานที่เราชอบนั้น มันไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ผิดศีลธรรม และที่สำคัญมันคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข และได้เงิน นั่นเอง
โดยผมมองว่าการที่เราได้เลือกและทำในสิ่งที่เราชอบ แม้ขัดใจคนอื่นบ้าง แต่ไม่ขัดกับศีลธรรมอันดี ย่อมไม่มีใครผิด โดยเฉพาะตัวเรา ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งอาจจะเป็นหนทางของการเปลี่ยนโลกก็ได้ ใครจะไปรู้

สำหรับสไตล์หรือแนวทางของการลงทุนในหุ้นนั้น ผมคิดแบบนี้ครับ คนที่เป็นนักลงทุนระยะยาวที่ดี ก็ไม่ควรไปดูถูกดูแคลนนักเก็งกำไรหรือเทรดเดอร์ ที่เขาสามารถทำเงินได้จากกราฟ เพราะบางครั้งบางที เขาอาจมีความสุขกับการดูกราฟ การมีกิจกรรมให้ทำในทุก ๆ วัน ก็ได้ และที่สำคัญ ตราบใดที่พวกเขาสามารถทำเงินจากเทรดได้ หรือได้กำไรเป็นสัดส่วนที่มากกว่าขาดทุน มันก็เป็นสิทธิของเขา เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกวิธีการและสไตล์ของตัวเองเสมอ

กลับกัน นักเทรดเดอร์หรือนักเก็งกำไร ก็ไม่ควรไปว่าหรือตำหนินักลงทุนระยะยาวเช่นเดียวกัน ว่า “พวกนี้เป็นพวกไดโนเสาร์ เต่าเลื้อยคลาน ทนถืออยู่ได้ ไม่รู้จักหาโอกาสในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน” ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และที่สำคัญ หากไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนก็ ไม่มีใครผิด ครับ
เครดิตภาพ sites.google.com ,thairath.co.thและceochannels.com