สวัสดีครับ หลายท่านอาจจะพอทราบมาบ้างแล้วว่า SCC หรือ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งพวกเขานั้นประกอบธุรกิจที่หลากหลาย โดยธุรกิจที่ดำเนินการอยู่นั้น มีด้วยกัน 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอล และธุรกิจแพคเกจจิ้ง ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจที่สุดนั้น คงไม่ใช่สองธุรกิจแรก แต่เป็นธุรกิจแพคเกจจิ้ง
ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ถึง 23 % และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเป็นแบบนี้ จึงเป็นที่มาของบริษัทลูกของ SCC อย่าง บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้นSCGP ที่กำลังจะเปิดตัวในฐานะหุ้นIPO ในไม่ช้านี้ และลำดับต่อไปคือความน่าสนใจของหุ้นตัวนี้ ที่ดูยังไงก็ไม่พ้นการเป็นผู้นำของธุรกิจประเภทนี้ในเมืองไทยและแถบภูมิภาคอาเซียน

หุ้นSCGP ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบไหนบ้าง
คราวนี้จะขอพูดถึงรายละเอียดเพื่อให้ท่านนักลงทุนพอที่จะเห็นภาพว่า หุ้นSCGP ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบไหน แล้วทำไมจึงมีการเติบโตในธุรกิจประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เอาหละครับ หลัก ๆ แล้ว พวกเขาผลิตบรรจุภัณฑ์ 2 แบบ คือ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และธุรกิจเยื่อและกระดาษ

สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร สำหรับธุรกิจประเภทนี้ที่ผ่านมาคือรายได้หลักของSCGP เลยก็ว่าได้ โดยสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 84% เลยทีเดียว มีทั้งบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว เช่น ซองพลาสติกบรรจุขนม ซองพลาสติกบรรจุผลตภัณฑ์ต่าง ๆ บรรจุภัณฑ์แบบคงรูป เช่น หลอดพลาสติกบรรจุโฟมล้างหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเยื่อกระดาษ เช่นกล่องกระดาษ ลังต่าง ๆ พวกภาชนะบรรจุอาหาร หลอด ถ้วย เครื่องจ่ายถ้วยกรวยน้ำดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่พวกเราอาจจะได้เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ต่อมาคือธุรกิจเยื่อและกระดาษ ผมอยากให้ท่านผู้อ่านนึกถึง กระดาษสำหรับปริ๊นต์ตามสำนักงานหรือออฟฟิศทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ขาดไม่ได้ และยังคงมีความจำเป็นต้องใช้อยู่ แม้ว่าปัจจุบัน ในหลาย ๆ ภาคส่วนได้เริ่มมีการรณรงค์ให้มีการลดการใช้กระดาษมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม

สำหรับในภาพรวมของ หุ้นSCGP นั้น หากให้พูดแบบตรงไปตรงมา สายธุรกิจของพวกเขาที่มีโอกาสเติบโตมากกว่านี้แน่นอนก็คือ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าตามห้างร้านทั่วไปมาเป็นซื้อสินค้าออนไลน์ ที่ยังไงเสียจะต้องมีการใช้บรรจุภัณฑ์ในการขนส่งอย่างน้อย 1 ชิ้นเสมอ แต่ในส่วนธุรกิจเยื่อและกระดาษ ในอนาคตอาจมีการใช้กระดาษที่ลดลง ก็คงเป็นหน้าที่ของท่านนักลงทุนที่จะต้องทำการบ้านต่อ ว่าแท้จริงแล้วหุ้นตัวนี้ น่าลงทุนหรือไม่ ถ้าใช่ควรเข้าซื้อที่ราคาเท่าไร…สวัสดีครับ
เครดิตภาพ marketeeronline.co.th, thebangkokinsight.comและforbesthailand.com
#การลงทุน #เทคนิคการลงทุน #หุ้นSCGP