บัญชีหุ้น มีกี่ชนิด

         สวัสดีครับ นักลงทุนหน้าใหม่ทุกท่าน สำหรับบทความนี้ เขียนเพื่อผู้ที่กำลังศึกษาการลงทุนในหุ้นโดยเฉพาะนะครับ (ต้องขออภัยท่านนักลงทุนมือเก๋าเป็นอย่างยิ่งครับ) เอาหละครับ เมื่อเราคิดที่จะศึกษาการลงทุนในหุ้น หรือแม้กระทั่งได้ศึกษาทฤษฎีพื้นฐานต่าง ๆ มาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงคราวที่เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักลงทุนหน้าใหม่จะต้องลงสนามจริงเสียที ซึ่งก่อนที่ท่านนักลงทุนจะซื้อหุ้นได้นั้น

ท่านจะต้องมี บัญชีหุ้น เสียก่อน ซึ่งการเปิดบัญชีหุ้นก็จะต้องเปิดผ่านโบร๊กเกอร์ ซึ่งมีมากมายหลายสิบเจ้า แต่ก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการเปิดบัญชีกับโบร๊กเกอร์ เรามาทำความรู้จักกับบัญชีหุ้นก่อนว่า มีด้วยกันกี่ประเภท และนักลงทุนหน้าใหม่ควรเปิดประเภทไหน รวมทั้งควรใช้เงินลงทุนขั้นแรกเท่าไร จึงจะเหมาะสม เราไปติดตามกันเลยครับ

 บัญชีหุ้น มี 4 ชนิด

         ใช่แล้วครับ บัญชีหุ้น มีด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิด มีเงื่อนไขและสิทธิแตกต่างกันออกไป รวมทั้งมีความเหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ดังนี้ครับ

1.บัญชีเงินสด (Cash Account)

คือ บัญชีที่ต้องชำระค่าหลักทรัพย์เต็มจำนวน ซึ่งโบร้คเกอร์จะทำการอนุมัติวงเงินให้เราก่อน โดยเราต้องฝากเงินอย่างน้อย 15% เพื่อเป็นหลักประกัน และภายใน 3 วัน ทำการนับแต่วันที่ซื้อหุ้น นักลงทุนจะต้องนำส่วนที่เหลือมาชำระให้เต็มจำนวน

2.บัญชีเงินฝาก (Cash Balance)

คือ บัญชีเงินฝาก หมายความว่า นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้เท่าที่ตัวเองฝากเงินเข้าไป โดยเป็นการฝากก่อนจึงซื้อได้ โดยขั้นต่ำของการฝากก็ไม่แน่นอนตายตัว แต่ส่วนใหญ่แล้ว ฝากขั้นต่ำประมาณ 5,000 บาท

3.บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance)

เป็นบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งต้องเสียดอกเบี้ยตามที่โบร้คเกอร์กำหนด โดยนักลงทุนจะต้องวางเงินสดหรือหลักทรัพย์ลงทะเบียนเป็นประกัน

4.บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์

(Derivatives Trading Account) เป็นบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภท Futures หรือสัญญา Options ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายอนุพันธ์ในประเทศไทย (TFEX) ซึ่งนักลงทุนต้องวางเงินประกันก่อนการลงทุน และอาจถูกเรียกเงินประกันเพิ่มหากระดับเงินประกันลดต่ำลงกว่าอัตราที่กำหนด

            มาถึงบัญชีที่นักลงทุนควรเลือกเปิด บัญชีหุ้น กันแล้วนะครับ ผมขอแนะนำให้ท่านนักลงทุนหน้าใหม่เลือกบัญชีเงินฝาก (Cash Balance) เพราะในช่วงแรก ประสบการณ์เรายังน้อย หากเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา อย่างน้อย ๆ ก็เป็นเงินของเราเอง ไม่ต้องเป็นหนี้ ที่มีดอกเบี้ยแพงระยับ ซึ่งจำนวนเงินที่เหมาะสมในการฝากก็ควรอยู่ราว 30000 – 50000 บาท ไม่ต้องมากกว่านี้ และไม่ควรน้อยกว่านี้ เพื่อให้เรารู้สึกอินกับการลงทุนครับ…ขอให้ท่านนักลงทุนหน้าใหม่โชคดี…สวัสดีครับ

เครดิตภาพ prachachart.net, facebook.comและkasikornbank.com

#การลงทุน #เทรนการลงทุน #บัญชีหุ้น

Table of Contents