การซื้อประกันลดหย่อนภาษี เป็นสิ่งที่หลายคนเลือกทำกัน เพื่อให้จ่ายภาษีน้อยลง ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ เพื่อจะได้เลือกซื้อได้อย่างถูกต้องและไม่ซื้อมากเกินความจำเป็นด้วย งั้นเรามาดูกันว่าเราจะต้องเรียนรู้อะไรในเรื่องนี้บ้าง
การซื้อประกันลดหย่อนภาษีนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำประกันชีวิตไม่ใช่การฝากเงิน แม้ว่ามันจะคล้ายกันมาก แต่ความจริงแล้วเป็นการทำสัญญากันว่าจะต้องมีการจ่ายเบี้ยตามที่กำหนดให้กับบริษัทประกัน การฝากเงินสามารถถอนได้ตลอดเวลาแต่ถ้าเป็นการทำประกัน คุณจะไม่สามารถถอนเงินได้ แต่ว่าจะมีเงินคืนเมื่อครบสัญญาหรือทำการเวนคืนกรมธรรม์
การทำประกันเพื่อลดหย่อนนั้นไม่ได้มีแค่แบบสะสมทรัพย์ ประกันคุ้มครองชีวิตหรือออมเงินระยะยาวก็ใช้ในการลดหย่อนได้ทั้งนั้น แต่เราก็ต้องดูความจำเป็นในชีวิตด้วย ว่าเราควรทำประกันตัวไหนจึงเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด

การทำประกันเงินออมนั้น การที่จะเลือกแบบระยะสั้นหรือระยะยาวนั้น มันแล้วแต่เป้าหมายทางการเงินและความจำเป็นในชีวิตด้วย เพื่อให้คุณนั้นมีประกันที่ช่วยลดหย่อนภาษีและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณด้วย รับรองเลยว่าคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแน่นอน
การซื้อประกันชีวิต คุณก็ไม่ควรใช้คิดแต่เรื่องจะลดหย่อนภาษีอย่างเดียว เพราะถ้าคุณซื้อเยอะเกินไป คุณก็จะจ่ายเบี้ยเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้คุณวางแผนการเงินผิดพลาดได้
แบบที่มีเงินคืน ไม่ได้ดีกว่าแบบที่ไม่มีเงินคืน หรือจ่ายเบี้ยทิ้ง ที่จริงแล้วประกันแบบที่มีเงินคืนนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแบบสะสมทรัพย์ ทำเพื่อการันตีเงินออม ส่วนแบบที่ไม่มีเงินคืนคือเป็นแบบเน้นคุ้มครองชีวิต ถึงไม่มีเงินคืน แต่ก็มีวงเงินคุ้มครองชีวิตได้มากกว่าแบบมีเงินคืนแน่นอน
จากตรงนี้ไม่ว่าคุณจะทำประกันอะไรเพื่อลดหย่อนก็ตาม ให้คุณนั้นใส่ใจในเรื่องของข้อมูลการซื้อประกันลดหย่อนภาษีให้มาก เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องรายละเอียดในการทำประกันเพื่อการลดหย่อนให้ดีขึ้น หรืออาจสอบถามตัวแทนประกันชีวิตก็ได้ เพื่อให้เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณฟังแล้วคิดว่าไม่คุ้มค่าก็ไม่ควรที่จะทำดีกว่า เพราะคุณเป็นคนจ่ายเบี้ย และมันคงน่าเสียดายถ้าคุณจะต้องเวนคืนกรมธรรม์ เพราะไม่อย่างนั้นก็ทำให้คุณเสียสิทธิ์ในกรมธรรม์นั้นไปเลย และเมื่อเวนคืนอาจได้เงินน้อยลงกว่าที่ส่งไปด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะทำประกันอะไร คุณจะต้องคิดให้ดีเสียก่อน