เมื่อถึงช่วงสมัครงานหรือต้องเปลี่ยนงาน คำถามหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะถามและกลายเป็นคำถามยอดฮิตที่มักเจอหลังไมค์มาคุยบ่อยๆ ก็คือเรื่องของเงินเดือนว่าจะเรียกเท่าไรดี เช่นเดียวกับว่ามันจะเป็นคำถามในห้องสัมภาษณ์ที่ไม่ง่ายต่อการตอบเหมือนกัน
เราไปดูเคล็ดลับในเรื่องนี้กันเลย

- ดูสิ่งที่เราทำให้กับบริษัท
การจะเรียก เงินเดือน อะไรนั้นก็ต้องดูด้วยว่าตัวเองมีความสามารถเท่าไร จะสร้างอะไรให้กับบริษัทที่รับ เพราะการทึกทักมองแต่ว่าตัวเองจะได้เท่าไรโดยไม่รู้ว่าบริษัทจะได้อะไรกลับไปนั้นก็คงจะเป็นการตอบคำถามที่ไม่เข้าท่าเท่าไรเลย
ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าเราจะจ้างเซลส์สักคนมาในบริษัท ถ้าเราสร้างยอดขายได้เท่าเงินเดือน ก็คงจะไม่ใช่ผลงานที่น่าประทับใจเท่าไร เพราะโดยปกติบริษัทก็คาดหวังว่าพนักงานเซลส์จะสร้างยอดให้เกิดกำไร เราถึงมักพูดติดตลกบ่อยๆ อยู่เสมอว่าคุณจะเรียกเงินเดือนหนึ่งล้านบาทก็ได้ ถ้าคุณสามารถสร้างกำไรให้บริษัทได้ 100 ล้านบาท
- มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลในเงินเดือนที่เรียกไป
คำถามหนึ่งที่เรามักจะถามกลับผู้มาสัมภาษณ์งานเวลาถามเรื่องเงินเดือนคือ “ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณควรได้เงินเดือนเท่านั้น” เพื่อเป็นการเช็กกลับไปว่าพวกเขามีตรรกะการคิดอย่างไร น่าตกใจที่หลายๆ คนให้คำตอบในลักษณะว่า “ ก็จบปริญญาโทมาจากต่างประเทศ ” “ ก็ที่เก่าให้เงินเดือนเท่านี้ ” “ ราคาตลาดอยู่ที่เท่านี้ ” ซึ่งมันเป็นคำตอบที่สะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งหลายๆ คนก็สอบตกกับคำถามนี้แหละ
เราทุกคนก็รู้แหละว่าการย้ายงานก็ต้องมีเงินเดือนมากขึ้น แต่ถ้าจะขึ้นกันแบบ 40% – 50% ก็ต้องอธิบายกันมาได้แบบ “ฟังขึ้น” ว่าเพราะอะไร เช่นมีทักษะการทำงานและประสบการณ์ที่มากขึ้นซึ่งเหมาะกับงานใหม่ เรามีความรู้เฉพาะทางที่เขาต้องการ ฯลฯ ไม่ใช่ตั้งต้นแต่ว่าอยากได้เงินเดือนมากขึ้นท่าเดียว

- เงินเดือนเยอะอาจจะเป็นกับดักคุณในอนาคต
ก็จริงอยู่ที่การได้เงินเดือนเยอะก็ดูเป็นเหมือนการประสบความสำเร็จในฐานะมนุษย์เงินเดือน แต่การได้เงินเดือนสูงๆ แต่กลับกลายเป็นว่าประวัติการทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไรนัก เพราะท้ายท่ีสุดก็จะกลายเป็นว่าคนคนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่สูง มีฐานเงินเดือนเยอะ แต่กลับไม่มี Portfolio ที่โดดเด่น บางคนก็กลายเป็นว่าไม่ได้มีความสามารถมากเท่าไร พอย้ายงานไปก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ขายตัวเองไว้ บริษัทก็เริ่มเพ่งเล็ง โดนกดดัน สุดท้ายก็ต้องมองหาจังหวะในการกระโดดย้ายงานต่อไป แต่ครั้นพอเงินเดือนติดลมบนก็ทำให้จะย้ายงานอะไรก็ลำบาก ถ้าไม่ยอมลดเงินเดือนหรือตำแหน่งตัวเอง
หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้พอได้ความรู้เล็กๆน้อยๆติดตัวกันไปบ้าง ถ้าเกิดสถานการณ์ล่ะก็นำไปปรับใช้เผื่อสถานการณ์จะดีขึ้นนะคะ