เทคนิคการจัดสรรเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำความเข้าใจ เพราะว่าจะช่วยให้คุณแบ่งสรรปันส่วนเงินรายได้ทีเข้ามาได้อย่างถูกต้องและทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บและเงินออมในอนาคตด้วย ซึ่งวันนี้เรามีหลักการง่ายๆที่จะช่วยในเรื่องนี้ได้ และทำให้คุณมีความสุขในการใช้จ่ายเงินอย่างเป็นระบบมากขึ้น

เทคนิคการจัดสรรเงิน อันแรก คือ เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราใช้เงินนี้ในการดำเนินชีวิตในแต่ละเดือน ซึ่งเราจะแบ่งเงินเดือนให้กับส่วนนี้ถึง 55% เพื่อใช้จ่ายต่างๆ เช่น พวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร เพราะเราต้องควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับส่วนอื่นๆ
ส่วนที่สอง เงินเก็บเพื่อการลงทุน เราจะกันเงินส่วนนี้ไว้ประมาณ 10 % เพื่อนำไปลงทุน ให้เงินของเรางอกเงยขึ้นมา แต่ว่าเราต้องเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างเช่น กองทุนรวม เราก็ค่อยๆซื้อกองทุนเก็บไว้ไม่ให้เกินเงินที่เราแบ่งไว้
ส่วนที่สาม กันเงินไว้สำหรับพัฒนาตนเอง คุณอาจจะคิดว่าแค่งานที่คุณทำ คุณก็ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทำงานอยากพักผ่อนแต่เชื่อเถอะว่า หากคุณอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น คุณควรพัฒนาตนเองให้มีความเหมาะสมกับความสามารถของตนเอง คุณอาจได้เลื่อนขั้น หรือว่ามีรายได้เสริมขึ้นมาอีกก็ได้ อันนี้แบ่งสัก 10%
เงินเก็บเพื่ออนาคตระยะยาว เป็นเงินเก็บที่ใช้เมื่อเรากำลังเกษียณ และควรแบ่งไว้ใช้ในส่วนนี้ 10 % โดยอาจจะเลือกฝากประจำเป็นระยะเวลานานๆ ครั้งละ 24 เดือน หรือจะเลือกซื้อประกันเงินออมก็ได้
เงินที่มีไว้ใช้สร้างความสุขและเงินเพื่อการแบ่งปัน เราก็แค่แบ่งเงินไว้ประมาณ 10 % เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองและคืนกำไรให้กับสังคมเสียบ้าง เพราะนี่คือสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรกดดันตัวเองมากเกินไป เพราะว่ามันจะยิ่งทำให้คุณเครียดและไม่มีความสุขกับการออมเงินอีกต่อไป เพราะฉะนั้นเอาแบบค่อยเป็นค่อยไป และเหมาะสมกับตัวคุณเองดีกว่า เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งที่คุณต้องทำอยู่แล้ว เพราะการใช้เทคนิคการจัดสรรเงิน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณนั้นสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของคุณได้ รับรองว่าคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงินมากวนใจอย่างแน่นอน แถมมีเงินออมเพื่ออนาคตอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะจัดสรรเงินแบบไหนขอให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคุณเองก็แล้วกัน จะได้ไม่กดดันตัวเองเกินไป ้